ตำนานสู่ นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น

นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น เพื่อน ๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่องราวมากมายจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสยอง เรื่องตลก หรือนิทานก็ตาม แน่นอนว่าที่แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งวันนี้เราจะมาเล่าตำนานที่เป็นต้นเรื่องในการดัดแปลงมาเป็นนิทานให้เพื่อน ๆ อ่านกันคะ

 

นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น โมโมทาโร่

 

นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น โมโมทาโร่เป็นหนึ่งในนิทานพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของญี่ปุ่น ชื่อ ” โมโมทาโร่ ” แปลว่า “ลูกพีชเผือก” เป็นคำต่อท้ายชื่อทั่วไปในญี่ปุ่น คุณอาจเคยได้ยินเรื่องที่เรียกว่าพีชบอย

เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยเอโดะ โมโมทาโร่เกิดบนโลกภายในลูกพีชยักษ์ วันหนึ่งขณะที่คุณยายกำลังซักผ้า ท่านสังเกตเห็นลูกพีชหล่นลงมาตามลำธาร เขาจึงพยายามหยิบลูกพีชออกจากน้ำแล้วนำกลับบ้าน ปู่กับย่าพยายามเปิดลูกพีชกิน แต่ข้างในพีชยังเป็นเด็กน้อย ปู่ย่าตายายดีใจกันใหญ่และเชื่อว่าสวรรค์ส่งเด็กคนนี้มาและตั้งชื่อให้เด็กว่า “โมโมทาโร่” หรือ “เด็กพีช”

หลายปีต่อมา โมโมทาโร่ได้ยินข่าวว่ามียักษ์คอยคุกคามชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงออกเดินทางต่อสู้กับยักษ์บนเกาะโอนิงาชิมะ ระหว่างทางเขาได้พบกับสุนัขตัวหนึ่ง ลิงและไก่ฟ้าพวกเขาตกลงที่จะเดินทางไปบุกเกาะโอนิกาชิมะ เมื่อไปถึงเกาะก็ต่อสู้กัน จนในที่สุดโมโมทาโร่ก็ปราบยักษ์ได้! โดยผู้นำยักษ์ที่พ่ายแพ้ คุกเข่าต่อหน้าโมโมทาโร่ พร้อมกับน้ำมีข้อความว่า “ฉันสัญญาว่าเราจะไม่ก่อกวนมนุษย์อีกต่อไป” โมโมทาโร่นำสมบัติของยักษ์ไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

อุระชิมะ ทาโร่

 

เรื่องราวของ อุระชิมะ ทาโร่ ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครหลักเป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวประมงที่ช่วยเต่าและได้รับรางวัลจากการอนุญาตให้เยี่ยมชมพื้นมหาสมุทรเพื่อเยี่ยมชม Dragon Palace อุราชิมะ ทาโระเล่นใต้น้ำ เป็นเวลา 3 ปี จู่ๆ เขาก็คิดถึงแม่ของเขา จึงบอกเจ้าหญิงว่าอยากกลับบ้าน เจ้าหญิงจึงมอบกล่องจำนวนหนึ่งให้กับอุราชิมะ ทาโร่บอกเขาว่าตราบใดที่เขาไม่เปิดมันเขาก็จะมีความสุข

เมื่อกลับถึงฝั่งก็รีบกลับบ้านไปหาแม่ แต่สิ่งที่พบคือ บนบก 300 ปีผ่านไป เขาเสียใจมาก เขาจำได้ว่าเจ้าหญิงมอบกล่องนี้ให้เขา เขาจึงเปิดมันขึ้นมา จากชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งแปลงร่างเป็นชายชราทันทีที่เปิดกล่อง ว่ากันว่ากล่องนี้เป็นกล่องที่เก็บรักษาชีวิตจริงของอุราชิมะไว้ เอาไว้ทาโร่.. นิทานญี่ปุ่นเรื่องนี้สอนถึงความสำคัญของการเชื่อฟังมากกว่าความสุขที่เต่าทะเลให้ชาวประมงเป็นรางวัล แต่กลับถูกลงโทษสำหรับการไม่เชื่อฟัง

 

เจ้าหญิงคางุยะ

 

นิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่น เจ้าหญิงคางุยะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ นิทานคนตัดไม้ไผ่ ก็เป็นอีกเรื่องยอดนิยม ถึงแม้จะถูกดัดแปลงไปหลายอย่างก็ตาม แต่การดัดแปลงครั้งล่าสุดเป็นของ Studio Ghibli เราอาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ เจ้าหญิงแห่งกระบอกไม้ไผ่ เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องราวที่คนญี่ปุ่นได้ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า ชายชราคนหนึ่งพบทารกอยู่ในแท่งไม้ไผ่เรืองแสง เพราะเขาและภรรยาไม่มีลูก เขาพาทารกน้อยกลับบ้านและเลี้ยงดูเขาด้วยความรัก พวกเขาตั้งชื่อเธอว่า “คางุยะ ฮิเมะ” หลังจากที่ชายชราได้พบกับคางุยะ ฮิเมะทุกครั้งที่เข้าไปในป่า การตัดไม้ไผ่ เขามักจะพบทองคำอยู่ในไม้ไผ่ที่เขาตัดเสมอ สิ่งนี้ทำให้พวกเขาทั้งสองร่ำรวยในเวลาอันสั้น เมื่อโตขึ้นเธอมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม เป็นที่ปรารถนาของชายหนุ่มหลายๆ คน

ต่อมาจักรพรรดิมิคาโดะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับความงามของคางุยะ ฮิเมะ และเมื่อได้พบกับเธอ เขาขอเธอแต่งงานทันที แต่ก็ถูกปฏิเสธเช่นกัน เธอให้เหตุผลว่าเธอไม่ได้อยู่ในดินแดนนี้จึงไม่สมควรที่จะแต่งงานกับเขา แต่เมื่อจักรพรรดิมิคาโดะใช้กำลัง จู่ๆ เธอก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตาจักรพรรดิ โดยตระหนักว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงตัดสินใจกลับไป

สามปีต่อมา คางุยะ ฮิเมะหันไปมองท้องฟ้าด้วยดวงตาเศร้าโศก แล้วเขาก็เล่าความจริงว่าเธอเป็นหญิงสาวจากดินแดนบนดวงจันทร์ ถูกส่งไปอยู่ในโลกมนุษย์ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่คุณต้องกลับแล้ว ชายชราตกใจจึงไปปรึกษากับจักรพรรดิมิคาโดะ เมื่อคืนพระจันทร์เต็มดวงมาถึงคางุยะ ฮิเมะจึงต้องกลับไปยังดวงจันทร์ จักรพรรดิสั่งให้ทหารซ่อนเธอและปิดผนึกบ้าน แต่สุดท้ายขบวนสวรรค์ก็สามารถลงมาพาเธอออกไปได้

พวกทหารก็นำสิ่งของที่นางได้รับมอบหมายมาถวายองค์จักรพรรดิ หลังจากอ่านจดหมายแล้วเขาก็รู้สึกเศร้ามาก จึงทรงถามข้าราชบริพารว่าภูเขาลูกใดอยู่ใกล้ท้องฟ้าที่สุด มีคนตอบว่าเป็นภูเขาสูงในจังหวัดซูรูกะ พระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำคำตอบไปเผาบนยอดเขานั้น หวังว่าข้อความจะส่งไปถึงคางุยะ ฮิเมะ เขาจึงสั่งให้เผาน้ำอมฤตแห่งชีวิตที่มอบให้เธอ เพราะเขาไม่อยากมีชีวิตยืนยาวโดยไม่มีโอกาสได้เจอเธออีก

ตำนานนี้ทำให้เชื่อกันว่าชื่อของ “ภูเขาไฟฟูจิ” มาจากคำว่า 不死 ซึ่งแปลว่าไม่มีวันตายหรือเป็นอมตะ การออกเสียงในภาษาญี่ปุ่นคือ ฟูจิ หรือ ฟุชิ และหากชื่อของภูเขานั้นเขียนด้วยตัวคันจิ “富士yama” ก็แปลได้โดยตรงว่า “ภูเขาที่เต็มไปด้วยนักรบ” นักรบในที่นี้หมายถึงทหารที่ได้รับคำสั่งจากจักรพรรดิให้นำจดหมายและน้ำอมฤตแห่งชีวิตมาเผาที่นี่ ซึ่งควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เชื่อกันว่าภูเขาไฟฟูจิในอดีตยังร้อนอยู่ และส่งควันลอยไปตรงนั้น

 

บทความแนะนำ